ตอนนั้นสมัยเป็น producer ประจำ GMM ในช่วงท้ายๆการทำ Golf-Mike ชุด 1 อันหนักหน่วงสาหัสสากรรจ์ที่เปลี่ยนไปมา ทั้งแนวเพลง executive producer หลายท่าน ผมรับผิดชอบเป็น producer ทำไป 30 เพลงได้ จนลึกลึก แทบจะถอดใจในการเป็นคนทำเพลง คิดว่า เราคงไม่มีความสามารถพอหรือเปล่านะ

พี่กฤษ กฤษณาวารินทร์ ที่ดูแล Green Bean ที่ผมได้ทำงานให้หลาย project มาก่อน ได้มาชักชวนให้ร่วมทำอัลบั้มใหม่ที่ชื่อว่า Sleepless ที่กำลังขึ้นโครงกับคุณหนึ่ง ณรงค์วิทย์ ซึ่งแกบอกว่า เป็น project อินดี้หน่อย ไม่เกร็ง ไม่คาดหวังมาก เหมือนการทำ ศิลปิน idol แต่ละคน ก็เลยตัดสินใจร่วมทำด้วยทัน

ซึ่งเพลงแรก ที่ได้ทำให้กับ project นี้ คือ ไม่หลับไม่นอน ซึ่งเดี๋ยวจะเล่าใน อีก post หนึ่ง

เพลงต่อมา บังเอิญมากว่า คุณหนึ่งแกกำลังชอบ pop taiwan วง F4 เหมือนผมพอดี 55 และอยากทำเพลงช้าเมโลดี้สวยพอดี

ผมเลยได้โอกาสปลดปล่อยความเครียดกับการทำงานที่ตามใจตัวเอง แหกกฎ GMM pop กลับไปสู่สิ่งผมชอบ คือการแต่ง Melody เพราะ แบบไม่ต้องกังวลว่า ต้องมีสไตล์ร่วมสมัยหรือเปล่า ดนตรีแบบ Carpenters The Eagles ที่ชอบ แต่ไม่จำเป็นต้องแต่งเพลงให้ร้องง่าย เมโลดี้จะมีเรนจ์กว้างก็ได้ คอร์ดหักมุมบ้างก็ได้ ถ้าเราว่ามันดี

เปียโนในเพลงนั่นคือ ไกด์ที่เล่นไว้ตอนแต่งเพลง โดยไม่ได้แก้เลย

และ เพื่อให้ได้เป็นสำเนียงเพลงจีน จำได้ว่าตอนร้องไกด์เล่นเมโลดี้ก็มั่วเนื้อร้องจีนออกไปด้วยฮ่าๆๆ

จำได้ว่าวันแรกที่ออกอากาศ บอย peacemaker ไปส่งที่ เพลง greenwave พอเพลงจบ ดีเจพี่อ้อยพูดว่า เพราะจนอึ้งเลย 🙂

ตอนนั้นไม่คิดอะไรมากไปกว่ารู้สึกว่าเราทำสำเร็จแล้ว จะเป็นอย่างไรต่อไปก็แล้วแต่คนฟัง

สิ่งที่ตอบรับมาแล้วมีผลกับผมที่สุด คือ ทำให้รู้ว่าสิ่งที่เราถนัดและสิ่งที่คนฟังอยากฟัง สุดท้ายคือการทำเพลงเพราะ นั่นเอง

กลับมาสร้างกำลังใจให้เราอยากเป็นคนทำเพลงต่อไปอีกครั้ง

และผมกลับมาสนใจการทำ melody ที่กลั่นที่สุดและอยู่ได้แม้กับเปียโนตัวเดียว จนเป็นที่มาอีกหลายเพลง ไม่ว่าจะเพลง สุดท้ายก็เพื่อนกัน Aroma สิ่งที่ฉันเป็น เป็นต้น

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *